ฟอร์ด เอเวอเรสต์ จะติดไมโครโฟนความไวสูงสามตัวไว้ภายในวัสดุบุเพดานรถ ไมโครโฟนสองตัวแรกติดตั้งไว้บริเวณเหนือเบาะนั่งแถวหน้า และอีกหนึ่งตัวติดตั้งไว้เหนือเบาะหลัง เพื่อตรวจวัดระดับเสียงจากเครื่องยนต์ ซึ่งทั้งสามตัวนี้จะส่งสัญญาณเสียงที่ได้รับไปยังระบบควบคุมการตัดเสียงรบกวนแบบเรียลไทม์ และเมื่อได้รับสัญญาณเสียงแล้ว ระบบควบคุมในตัวรถจะทำการสังเคราะห์คลื่นเสียงที่ตรงข้ามกันเพื่อหักล้างกับเสียงรบกวนผ่านระบบเครื่องเสียงในตัวรถ(ลำโพง)เพื่อช่วยกลบเสียงเครื่องยนต์ จนสามารถตัดเสียงรบกวนได้ในช่วงย่านความถี่ 30-180 เฮิรตซ์
จะว่าไประบบนี้รถราคาแพงๆก็ใช้กันหลายรุ่น อย่างในเมืองไทยเห็นมีในฮอนด้า แอคคอร์ด แต่กระนั้นก็อย่าคิดไปว่าเมื่อติดตั้งมาในฟอร์ด เอเวอเรสต์แล้ว ห้องโดยสารจะเงียบกริบหรือไร้เสียงเครื่องยนต์เลยนะครับ เพราะในความเป็นจริงผู้เขียนก็ยังได้ยินเสียงเครื่องยนต์เล็ดรอดเข้ามาอยู่พอสมควร
อย่างไรก็ตามถ้าไม่นับเสียงเครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบที่จะได้ยินชัดเวลาเข่นคันเร่ง พวกเสียงรบกวนอื่นๆ อย่างการจราจรภายนอก เสียงลมปะทะ หรือเสียงยางบดพื้นถนน เอเวอเรสต์คันนี้จัดการอยู่หมัด ภายในห้องโดยสารเงียบนิ่งอยู่ในระดับที่น่าพอใจเลยทีเดียว
สอดล้องกับช่วงล่างที่หนึบแน่นหายห่วง ตัวรถทรงตัวดีทั้งในช่วงเข้า-ออกโค้ง และใช้ความเร็วสูงแล้ว(ลอง)เปลี่ยนเลนกะทันหัน ภายในห้องโดยสารนิ่ง ไร้อาการยวบย้อย หรือสาดใส่แรงๆแล้วท้ายบาน ขณะเดียวกันการรองรับก็นุ่มนวลกว่าปิกอัพเรนเจอร์แบบรู้สึกได้
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ โฉมใหม่ ใช้ช่วงล่างหน้าอิสระแบบคอยล์-โอเวอร์-สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วงล่างหลังแบบคอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์ ซึ่งตัวรถสูงใหญ่แต่เก็บอาการให้ตัวในแนวดิ่งหรือการโยนตัวในแนวนอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่พวงมาลัยแบบผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า(EPAS) ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่าย ความเร็วต่ำน้ำหนักเบามือ ถ้าเพิ่มความเร็วมากขึ้นก็นิ่งแน่นมั่นใจ ไร้อาการสะท้านจากพื้นถนนในช่วงผ่านอุปสรรค...เหล่านี้มันสอดคล้องไปด้วยกัน