ดู: 6570|ตอบกลับ: 2
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

Hilux Revo 2015

[คัดลอกลิงก์]


        รายงานข่าวจากบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ระบุว่าโตโยต้าเริ่มต้นสายการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน ออกจำหน่ายครั้งแรกในปี พ.ศ.2511 โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า “ไฮลักซ์” ประสบความสำเร็จได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงตลอดระยะเวลาเกือบ 50 ปี ต่อมาในปี พ.ศ. 2547 โตโยต้า ได้สร้างปรากฏการณ์ ให้กับตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ด้วยการแนะนำรถไฮลักซ์ เจเนอเรชั่นที่ 7 ภายใต้โครงการ “IMV: Innovative International Multi-Purpose Vehicle” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโตโยต้าที่มีการย้ายฐานการผลิตรถกระบะขนาด 1 ตัน จากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าทั่วโลก
      
       โดยในประเทศไทยสามารถครองตำแหน่งแชมป์รถกระบะ ด้วยยอดขายสะสมกว่า 1,650,000 คัน ครองอันดับ 1 ในตลาดรถกระบะ 9 ปีซ้อน และรถกระบะไฮลักซ์ที่ผลิตภายในประเทศไทย ยังสามารถสร้างความความภาคภูมิใจให้กับคนไทย ภายใต้คุณภาพการผลิตมาตรฐานโตโยต้า ด้วยยอดส่งออกรถยนต์ภายใต้โครงการ IMV กว่า 2,400,000 คัน ทั้งหมดนี้แสดงถึงความเชื่อมั่นของลูกค้าทั่วโลก ที่มีต่อคุณภาพและสมรรถนะของโตโยต้า ไฮลักซ์ ทำให้เป็นรถกระบะยอดนิยมระดับโลกอย่างแท้จริง
      
       “ล่าสุดโตโยต้าได้แนะนำ ไฮลักซ์ เจนเนอเรชั่นที่ 8 ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจของโตโยต้า ถือได้ว่าเป็นการปฏิวัติทุกมิติของรถกระบะอย่างแท้จริง กับการเปลี่ยนโฉมในทุกตารางนิ้ว เพื่อตอบสนองทุกความต้องการและความพึงพอใจของลูกค้าอย่างเหนือความคาดหมาย ภายใต้ชื่อใหม่ว่า Hilux REVO (ไฮลักซ์ รีโว่) เคียวอิจิ ทานาดะ เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดกล่าว

        “ทีมวิศวกรโตโยต้าได้สร้างสรรค์ Hilux REVO ด้วยแรงบันดาลใจในการออกแบบและพัฒนา เพื่อให้ Hilux REVO เป็นรถกระบะผู้กำหนดนิยามใหม่แห่ง “ความแกร่ง” สะท้อนภาพลักษณ์ตามแนวคิด “ยุคใหม่แห่งกระบะ ทุกตารางนิ้วต้องไฮลักซ์” ด้วยเครื่องยนต์ใหม่บนโครงสร้างแชสซีส์ใหม่กับแรงบิดที่สูงขึ้น ลดระดับเสียงรบกวนจากการทำงานของเครื่องยนต์ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง - ระบบเกียร์แบบ 6 สปีดใหม่ที่ช่วยปลดปล่อยศักยภาพของเครื่องยนต์ใหม่อย่างเต็มสมรรถนะ - ระบบกันสะเทือนใหม่ที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น ถูกออกแบบเป็นพิเศษให้เหมาะกับสภาพถนนของประเทศไทยโดยเฉพาะ ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่เฉกเช่นรถ SUV ระดับหรู - ดีไซน์ใหม่ที่แข็งแกร่งและเต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ - ระบบความปลอดภัยเหนือระดับกว่ารถรุ่นเดียวกัน”
      
       วุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า Hilux REVO เป็นการพลิกโฉมครั้งยิ่งใหญ่ กับรถกระบะที่ถูกพัฒนาเพื่อปฏิวัติโลกยนตรกรรม ทั้งในวันนี้และอนาคต โดยชื่อ Hilux REVO มาจากคำว่า “REVOLUTION” ซึ่งมีความหมายในการพัฒนาไฮลักซ์ ใหม่ ในทุกมิติ ทุกตารางนิ้ว ผ่านจุดขายหลักทั้ง 6 จุด จึงเป็นที่มาของการสื่อสารทางการตลาด ภายใต้แนวคิด “ไฮลักซ์ รีโว่ ปฏิวัติทุกมิติ แห่งกระบะอนาคต” โดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นให้เกิดการรับรู้แบรนด์สูงสุด ด้วยแผนการสื่อสารการตลาดที่ครอบคลุมทุกช่องทาง พร้อมการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ รวมทั้งสื่อดิจิตอลในเว็ปไซต์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

        นอกจากนี้ โตโยต้า ยังได้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า เพื่อให้เกิดการรับรู้สูงสุด เริ่มตั้งแต่การจัดกิจกรรมเปิดตัว Hilux REVO อย่างเป็นทางการที่ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ พร้อมงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ใน 4 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาค รวมทั้งที่โชว์รูมโตโยต้า 427 แห่งทั่วประเทศ ในวันที่ 22 - 24 พฤษภาคมนี้ ซึ่งโตโยต้าได้จัดเตรียมรถทดลองขับไว้ให้ลูกค้าทุกท่าน ได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่กันอย่างทั่วถึง โดยหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเราจะไปสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าทุกภูมิภาคให้สัมผัส Hilux REVO ด้วยกิจกรรมคาราวาน “Hilux REVO โชว์ถึงถิ่นทั่วประเทศ” และยิ่งไปกว่านั้น โตโยต้าจะเปิดสนามทดลองขับ Toyota ในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นสนามทดลองขับมาตรฐาน ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถมาร่วมสัมผัสประสบการณ์ในการขับขี่เพื่อพิสูจน์สมรรถนะกับ Hilux REVO ด้วยตัวคุณเอง
      
       “Hilux REVO มีให้เลือกถึง 3 รุ่น 33 แบบ มีสีให้เลือกทั้งสิ้น 7 สี โดยเป็นสีใหม่ด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Nebula Blue สีแดง Crimson Spark Red และสีขาวมุก White Pearl Crystal วางจำหน่ายราคาเริ่มต้นเพียง 569,000 บาท โดยได้เพิ่มสายผลิตภัณฑ์ใหม่ในรุ่นมาตรฐานขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อตอบสนองการใช้งานของลูกค้า ทั้งนี้ Hilux REVO รุ่นดับเบิ้ลแค็บ และรุ่นมาตรฐาน พร้อมส่งมอบให้ทุกท่านเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันนี้ สำหรับรุ่นสมาร์ทแค็บ สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ และเริ่มทำการส่งมอบได้ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน เป็นต้นไป และวางพร้อมเป้าหมายการขายที่ 14,000 คันต่อเดือน”วุฒิกรกล่าว
      
      
ชื่อรุ่น Hilux REVO ที่วางจำหน่ายราคา(บาท)
มาตรฐาน569,000-675,000
สมาร์ทแค็บ619,000-899,000
ดับเบิ้ลแค็บ725,000-1,139,000

      
      

        ข้อมูลผลิตภัณฑ์ Hilux REVO
      
       REVOLUTION OF STYLING
       Hilux REVO ทุกองศาคือความหรูหราผสานความโฉบเฉี่ยวดุดัน ด้วยเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ กระจังหน้า และกันชนหน้า เส้นสายที่สอดประสานกับไฟหน้ากับไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ควบคุมแสงสว่างเปิด-ปิดอัตโนมัติ (Light Control System) พร้อมระบบปรับระดับอัตโนมัติ และไฟ LED Daytime Running Light ที่ผสานอย่างลงตัวกับไฟตัดหมอกหน้า ขณะที่ไฟท้ายพร้อมไฟตัดหมอก (Rear Combination Lamp with fog lamp) พร้อมครีบช่วยการทรงตัว (Aero Stabilizing Fin) เพิ่มเสถียรภาพการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น กระจกมองข้างโครเมียม พร้อมสัญญาณไฟเลี้ยว ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางแบบ All-terrain รองรับทุกรูปแบบการขับขี่ ลุยได้ทุกสภาพถนน(แล้วแต่รุ่น)

        REVOLUTION OF COMFORT
       ภายในห้องโดยสารสรรค์สร้างที่สุดแห่งสุนทรียภาพขับขี่ และความหรูหราที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นสมบูรณ์แบบ กับห้องโดยสารขนาดใหญ่โอ่โถงกว้างสบาย ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพียบพร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน พวงมาลัยปรับระดับ 4 ทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) และระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start) และมาพร้อมกับจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID 4.2 นิ้ว ติดตั้งระบบเครื่องเสียงพร้อมเนวิเกเตอร์ แบบหน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว รองรับระบบนำทาง T-Connect และการเชื่อมต่อ USB / AUX / Bluetooth พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสสลับ AC 220V กล่องเก็บของพร้อมระบบรักษาความเย็น (Cool Box) และช่องปรับอากาศสำหรับเบาะหลัง

        REVOLUTION OF POWER
       GD Efficient Boost เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เจเนอเรชั่นล่าสุดจากโตโยต้า พลังขับเคลื่อนที่แรงขึ้นอีกขั้น ให้แรงบิดสูงสุดในรอบกว้าง (Flat Torque) ครอบคลุมทุกการใช้งาน ระบบเทอร์โบแปรผันใหม่ (VN Turbo) ออกแบบให้มีขนาดเล็กลงแต่ประสิทธิภาพมากขึ้น หัวฉีดเทคโนโลยีล่าสุดปั๊มแรงดันสูง 220 MPa ฉีดน้ำมันเป็นละอองฝอย เผาไหม้สมบูรณ์หมดจด เพิ่มระดับความประหยัดให้มากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์ทำงานเงียบ และสั่นสะเทือนน้อยกว่า มาพร้อมกับระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System) เมื่อรถหยุดนิ่ง และจะสตาร์ทเครื่องยนต์ขึ้นใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันและลดไอเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่ขึ้น กับระบบ EGR (Exhaust Gas Recirculation) หรือการนำไอเสียหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ ช่วยลดความร้อนของเครื่องยนต์ขณะทำงาน ลดมลพิษได้เต็มประสิทธิภาพตามมาตรฐาน Euro 4

        REVOLUTION OF CONTROL
       Hilux REVO มากับระบบส่งกำลังใหม่(แล้วแต่รุ่น) ทั้งเกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีด ทำให้ทุกการขับขี่ง่ายดาย ราบรื่นทุกจังหวะความเร็ว และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ที่ให้แรงบิดสูงในจังหวะรอบต่ำช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับเคลื่อนได้อย่างเหนือชั้น และประหยัดน้ำมัน นอกจากนี้ยังใช้งานสะดวกกับสวิตช์ปรับรูปแบบการขับขี่ (Drive Mode Switch) เลือกรูปแบบสมรรถนะการขับขี่ได้ตามต้องการ ทั้งแบบประหยัด (ECO Mode) และแบบสมรรถนะสูง (Power Mode) ตอบสนองทุกสภาพการขับขี่ รวมถึงสวิตช์ปรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า Shift-On-The-Fly (4WD Switch) ช่วยให้ปรับระบบเข้าสู่รูปแบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้อย่างสะดวกและง่ายดายขึ้น พร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ A-TRC (Active Traction Control) เพื่อการขับขี่สไตล์ Off Road อย่างแท้จริง และยังมีเทคโนโลยีสำหรับการฝ่าฟันอุปสรรค กับระบบล็อกเฟืองท้าย (Diff Lock) ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า ทำให้มั่นใจได้ว่ารถจะมีแรงฉุดลากที่เหมาะสม สามารถตะลุยผ่านเส้นทางวิบากได้อย่างง่ายดาย

        REVOLUTION OF STABILITY
       ระบบช่วงล่าง DCS (Dynamic Control Suspension) ออกแบบใหม่ทุกชิ้น ให้การตอบสนองดีเยี่ยมทั้งการทรงตัวและความนุ่มนวล โดยระบบกันสะเทือนใหม่ (New Suspension System) ให้สมรรถนะเช่นเดียวกับรถ SUV ระดับหรู ขณะที่โครงสร้างแชสซีส์ใหม่ FIRM (Frame with Integrated Rigidity Mechanism) ออกแบบพิเศษให้แข็งแกร่งเพิ่มถึง 20% ทนทานยิ่งขึ้น เพิ่มสมรรถนะการทรงตัวที่มั่นคงในขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง ลดแรงสั่นสะเทือนเพิ่มความนุ่มนวล พร้อมทั้งช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนดีกว่าเดิม 15% ช่วยปกป้องผู้โดยสารได้เหนือชั้นกว่า มั่นใจยิ่งขึ้นกับระบบควบคุมเสถียรภาพของห้องโดยสาร (Body Control with Torque Demand -เฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล) ช่วยลดการกระพือของห้องโดยสารอันเนื่องมาจากสภาพถนน ให้การขับขี่ราบเรียบ และนุ่มนวลยิ่งขึ้น

        REVOLUTION OF SAFETY
       Hilux REVO เป็นอีกขั้นของระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก ที่เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงไม่ว่าจะเป็นระบบป้องกัน Active Safety อย่างระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control) ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC(Hill-start assist control) ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC (Downhill Assist Control) และกล้องมองหลัง ขณะที่ระบบปกป้องหลังเกิดอุบัติเหตุ หรือ Passive Safety ประกอบด้วยถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่งรอบคัน และโครงสร้างตัวถังนิรภัย

        

        


REVOLUTION OF SAFFTY “ปฎิวัติระบบความปลอดภัย มั่นใจทุกสถานการณ์”

1.   ระบบป้องกัน ACTIVE SAFETY
-   ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control ) ขณะเข้าโค้งที่เปียกลื่น ระบบจะส่งแรงเบรกไปยังล้อแต่ละล้อแบบอัตโนมัติ เพื่อป้องกันภาวะหลุดโค้ง (Understeer) หรือแหกโค้ง (Oversteer)

-   ระบบป้องกันล้อล๊อค ABS (Anti-Lock Braking System) เมื่อต้องเบรกอย่างกะทันหัน ระบบจะช่วยป้องกันล้อล๊อคและลื่นไถล
ทำให้สามารถควบคุมรถได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

-   ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist) ในสภาวะเบรกฉุกเฉิน และแรงเบรกจากผู้ขับขี่ไม่เพียงพอต่อการหยุดรถ ระบบจะเพิ่มแรงเบรก
โดยอัตโนมัติเพื่อให้สามารถหยุดรถได้ในระยะที่ปลอดภัย

-   ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) เมื่อต้องวิ่งบนพื้นถนนขรุขระ หรือใช้งานลากจูง และต้องเผชิญลมพัดขวางรุนแรง เซ็นเซอร์จะปรับแรงดันเบรก และกำลังของเครื่องยนต์ให้เหมาะสม ช่วยรักษาเสถียรภาพ ป้องกันรถส่ายหรือสูญเสียการทรงตัว

-   ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control) ป้องกันอาการการเกิดล้อหมุนฟรี เมื่อขับอยู่บนพื้นถนนผิวลื่น ซึ่งเป็นสาเหตุของการลื่นไถล ทำให้รถเสียการทรงตัวได้

-   ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake – force Distribution) ระบบช่วยกระจายแรงเบรกในแต่ละล้ออย่างสมดุล เพื่อป้องกันอาการท้ายสะบัด และกระจายแรงเบรกล้อซ้าย-ขวา ในขณะที่กำลังเข้าโค้ง เพื่อการควบคุมที่ดีขึ้น

-   ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill Start Assist Control) เมื่อต้องออกตัวบนทางที่ลื่นและลาดชัน ระบบจะเพิ่มแรงดันเบรกไปยังล้อทั้ง 4 อัตโนมัติ เพื่อป้องกันรถลื่นไถลลงเนินชัน

-   ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC (Downhill Assist Control) เมื่อต้องขับเคลื่อนลงเนินชัน ระบบจะควบคุมแรงดันเบรกที่ล้อโดยอัตโนมัติ โดยที่ผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องแตะเบรก ช่วยให้เคลื่อนที่ลงเนินชันด้วยความเร็วสม่ำเสมอ

-   กล้องมองหลัง ระบบจะแสดงภาพบริเวณมุมมองด้านหลังของรถผ่านจอ LCD เมื่อเข้าเกียร์ถอย ช่วยให้ถอยจอดได้อย่างแม่นยำ และปลอดภัยยิ่งขึ้น

        This image has been resized. Click this bar to view the full image. The original image is sized 800x548.


ระบบปกป้อง PASSIVE SAFETY
ถุงลงเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่งรอบคัน มั่นใจอีกขั้นของการปกป้องที่เหนือชั้น ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ลดโอกาสบาดเจ็บจากแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยถุงลมเสริมความปลอดภัย ด้านหน้า 2 ตำแหน่ง / ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง / ม่าน 2 ตำแหน่ง / เข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง

โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA (Global Outstanding Assessment )
ได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษโดยการใช้เหล็กสำหรับแรงดึงสูง (High Tensile Strength Steel) เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับและกระจายแรงกระแทกจากการชนได้อย่างดีเยี่ยม


REVOLUTION OF STABILITY  “ปฎิวัติความเหนือชั้น ทุกการทรงตัว”

ระบบช่วงล่าง DCS (Dynamic Control Suspension)

-   ปฎิวัติใหม่กับระบบควบคุมช่วงล่างแบบพลวัต อีกขั้นของความล้ำหน้า ออกแบบใหม่ทุกชิ้น ขีดสุดความแข็งแกร่งพร้อมตอบสนองดีเยี่ยม ทั้งการทรงตัวและความนุ่มนวล

-   ระบบกันสะเทือนใหม่ (New Suspension System) ให้สมรรถนะเช่นเดียวกับรถ SUV ระดับหรู สู่การควบคุมที่เหนือชั้น เสถียรภาพมั่นคง มั่นใจในทุกสถานการณ์

-   แหนบถูกออกแบบให้ยาวขึ้น ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดียิ่งขึ้น เพิ่มความนุ่มนวล และขยายระยะการทำงานของแหนบซ้าย-ขวา ให้เสถียรภาพการทรงตัวที่นิ่งทั้งทางตรงและเข้าโค้ง

-   โช๊คอัพถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มสมรรถภาพการเกาะถนนได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเมื่อต้องวิ่งบนเส้นทางแบบ Off Road

โครงสร้างแชสซีส์ใหม่ FIRM (Frame with Integrated Rigidity Mechanism )  ออกแบบพิเศษ เพิ่มสมรรถภาพการทรงตัวที่มั่นคงในขณะที่วิ่งด้วยความเร็วสูง ลดแรงสั่นสะเทือน เพิ่มความนุ่มนวล

-   ขีดสุดของความแข็งแกร่ง ขึ้นรูปจากเหล็กกล้าแรงดึงสูง (High Tensile Strength Steel)
-   พื้นที่กว้างใหญ่ขึ้น รองรับน้ำหนักบรรทุกได้เต็มประสิทธิภาพ
-   เพิ่มความปลอดภัย ด้วยการออกแบบให้ดูดวับแรงกระแทกจากการชน

        This image has been resized. Click this bar to view the full image. The original image is sized 800x585.


ระบบควบคุมเสถียรภาพ ของห้องโดยสาร (Body Control with Torque Demand)
-   ช่วยลดการสั่นกระพือของห้องโดยสารอันเนื่องมาจากสภาพถนน ให้การขับขี่ราบเรียบและนุ่มนวลยิ่งขึ้น
-   ยาง All Terrain ขนาด 17 นิ้ว เกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม ให้ความรู้สึกนุ่มนวลในทุกสภาพถนน
-   

REVOLUTION OF CONTROL ปฎิวัติมิติใหม่แห่งการควบคุม
-   สวิตช์ปรับรูปแบบการขับขี่ (Drive Mode Switch)  เลือกรูปแบบการขับขี่ได้ตามที่ต้องการ ทั้งแบบประหยัด (ECO Mode)  และแบบสมรรถนะสูง (Power Mode)

-   สวิตช์ปรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า Shift-On-The-Fly (4WD Switch)  ช่วยให้ปรับระบบเข้าสู่รูปแบบการขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

-   ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ A-TRC (Active Traction Control) เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ว่าล้อได้เริ่มสูญเสียแรงขับเคลื่อน ขณะที่วิ่งบนถนนผิวลื่น ระบบจะลดแรงขับที่ส่งไปยังล้อนั้น เพื่อป้องกันล้อหมุนฟรี และเพิ่มแรงขับไปยังล้อที่เหลือ เพื่อเคลื่อนที่ต่อไปได้อย่างราบรื่นและง่ายดาย

-   ระบบแบบล๊อคเฟืองท้าย (Diff - Lock) ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า มั่นใจได้ว่ารถจะมีแรงฉุดลากที่เหมาะสม สามารถตะลุยผ่านเส้นทางวิบากได้อย่างง่ายดาย

-   เกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีด ครั้งแรกในโลกกับระบบเกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีด ในรถกระบะ ให้ทุกการขับขี่ง่ายดาย และราบรื่นทุกจังหวะความเร็ว

-   เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับเคลื่อน และประหยัดน้ำมันได้อย่างยอดเยี่ยม

        This image has been resized. Click this bar to view the full image. The original image is sized 800x464.


REVOLUTION OF POWER ปฎิวัติความแรง กว่าที่เคยแรง

-   เครื่องยนต์ GD Efficient Boost   ขีดสุดเทคโนโลยีแห่งอนาคต ภายใต้แนวคิด Efficient Boost เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ ลดการสูญเสียความร้อนและแรงเสียดทานของเครื่องยนต์ พลิกโฉมยานยนตร์ระดับโลก ด้วยเครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรล เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดจากโตโยต้า ให้แรงบิดสูงสุดในรอบกว้าง ครอบคลุมทุกการใช้งานทั้งในช่วงออกตัว หรือเมื่อเร่งแซง ประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม เครื่องยนต์ทำงานเงียบ และสั่นสะเทือนน้อยกว่า พร้อมฟันฝ่าทุกอุปสรรค รองรับการใช้งานทุกรูปแบบได้อย่างเต็มสมรรถนะ

-   แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน – เมตร
-   เผาไหม้หมดจด ประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม
-   เสียงรบกวนต่ำ เงียบดุจรถยนต์นั่ง
-   ไอเสียต่ำ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้รับมาตรฐาน Euro 4

        This image has been resized. Click this bar to view the full image. The original image is sized 800x462.




VN TURBO
-   ระบบเทอร์โบแปรผันใหม่ ออกแบบให้มีขนาดเล็กลง แต่ประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดครีบปรับแรงดันอากาศด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่แม่นยำสูง แรงต่อเนื่องทุกรอบความเร็ว

-   ระบบฉีดน้ำมันอัจฉริยะ พร้อมปั๊มแรงดันสูง 220 Mpa ฉีดน้ำมันเป็นละอองฝอย เพื่อการเผาไหม้ที่สมบูรณ์แบบ ประหยัดมากยิ่งขึ้น เครื่องยนต์เดินเงียบ ลดเสียงและการสั่นสะเทือน ลดมลภาวะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

-   Roller Rocker Arm with Valve Lash Adjuster ออกแบบพิเศษเพื่อลดแรงเสียดทานระหว่างลูกเบี้ยวและกระเดื่องวาล์ว พร้อมระบบปรับตั้งวาล์วอัตโนมัติเพื่อกำจัดช่องว่างของการสึกหรอ ทำให้ไม่มีการรั่วไหลของไอน้ำมัน เครื่องยนต์เดินเงียบ ประหยัดน้ำมันและค่าบำรุงรักษาตลอดอายุการใช้งาน

-   EGR (Exhaust Gas Recirculation) เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ช่วยลดความร้อนของเครื่องยนต์ ลดมลพิษได้เต็มประสิทธิภาพ ตามมาตรฐาน Euro 4

-   ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติ (Stop & Start System) ระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วขณะ และจะสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง ช่วยประหยัดน้ำมันได้ดีขึ้น และขณะที่เครื่องยนต์หยุดทำงาน เครื่องปรับอากาศจะยังคงส่งลมเย็นอย่างทั่วถึง

-   เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร (เกียร์ธรรมดา iMT 6 สปีด) กำลังสูงสุด130 กิโลวัตต์ (177 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,600 รอบ/นาที

-   เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร (เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) กำลังสูงสุด130 กิโลวัตต์ (177 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,400 รอบ/นาที

-   เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร (เกียร์ธรรมดา 6 สปีด / เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) กำลังสูงสุด110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600-2,000 รอบ/นาที

-   เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร (เกียร์ธรรมดา 5 สปีด) กำลังสูงสุด110 กิโลวัตต์ (150 แรงม้า) ที่ 3,400 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร ที่ 1,400-2,600 รอบ /นาที

-   เครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร Dual VVT-I (เกียร์ธรรมดา 5 สปีด / เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด) กำลังสูงสุด 122 กิโลวัตต์ (166 แรงม้า) ที่ 5,200 รอบ / นาที แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที


       
จุดเด่นของ HILUX REVO 2015 มีอยู่ 32อย่าง คือ
1 .ยาง ALL Terrain
2. 4WD สวิทซ์เปลี่ยนง่าย
3. HAC ขึ้นทางลาดชัน
4. DAC ลงทางลาดชัน
5. Frame แชสซีแข็งแรง ทรงตัวดี
6. ช่วงล่างยืดหยุ่น นุ่มนวล
7. A-TRC ขับเคลื่อนสี่ล้อความเร็วต่ำ4L
8.Engine GD แรงม้า แรงบิดสูงขึ้น
9. มีโหมดการขับขี่ Power Mode Eco Mode
10. iMT เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล
11. เกียร์ 6 Speed ประหยัดน้ำมัน
12. พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง
13. Push Start & Smart Entry
14. Cool Box & Cup Holder
15. Back Seat Air & Auto Air
16. โหมดการขับขี่ ตำแหน่งเหมาะสม
17. ที่วางแขนด้านหลัง ที่วางแก้ว
18. ความเงียบในห้องโดยสาร 19. แชสซีใหม่ เพิ่มความหนาขึ้น
20. ไฟหน้า LED Projector
21. Follow Me Home
22. จุดจ่ายไฟ 220 V
23. จอ MID สามมิติ ไฟหน้า Auto
25. Daytime Running Lamp
26. ABS, EBD
27. VSC, TRC, HAC, DAC, TSC, BA, A-TRC, Diff Lock
28. ESS Pitch and Bounce Control
29. Safety Belt & Airbag 3 ตำแหน่ง
30. Start & Stop System
31. ระบบ Brake Over Ride
32. ปลดล็อคประตูเมื่อ Airbag ทำงาน หรือ มีการตัดไฟจากแบตเตอรี่
-Airbag สามารถ ปิด เปิด ได้
-ความยาวเพิ่มขึ้น 20 ม.ม
-ความสูงลดลง 5 ม.ม
-สีภายใน 4x2 สีดำ
-2x4,4x4 ภายในสี เบจ
-มี7สี ขาวมุก ขาว เงิน แดง น้ำเงิน เทาดำ ดำ
-ถังน้ำมันจากเดิม 76 เป็น 80 ลิตร ยกเว้นช่วงยาวหรือตอนเดียวกระบะสั้นถังจุ 65 ลิตร
-หัวฉีดจากเดิม 8 รู เป็น 9รู(ในเครื่องยนต์2.8L)
-Vn Turbo ทุกรุ่น...
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | .

รายละเอียดเครดิต

ขึ้นไปด้านบน