พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบ 4 ก้าน สามารถปรับตำแหน่งได้ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตช์ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ บนพวงมาลัย ขณะที่มาตรวัดความเร็วและความเร็วรอบดูง่ายชัดเจนพร้อมจอแสดงข้อมูลอเนกประสงค์ (Multi-information display) ที่แสดงผลข้อมูลได้หลากหลาย ทั้งอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย ระยะทางขับขี่ที่เหลือจากปริมาณน้ำมันที่มีอยู่ในถัง รวมถึงแสดงการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในสภาพพื้นผิวถนนที่แตกต่างกันเมื่อเลือกโหมดการขับขี่แบบออฟโรด เบาะนั่งได้รับการออกแบบใหม่ (ergo seat design) ให้โอบรับกับสรีระของผู้นั่งมากยิ่งขึ้น โดยคู่หน้าปรับระดับได้ 8 ทิศทางด้วยระบบไฟฟ้า ในขณะที่เบาะนั่งแถวที่สองสามารถแยกพับแบบ 60:40 ซึ่งพนักพิงสามารถปรับเอนและพับไปข้างหน้าเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการใช้งาน ส่วนเบาะนั่งแถวที่สามสามารถแยกพับให้ราบไปกับพื้นห้องโดยสารเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น ขนาดตัวถังใหม่พร้อมการปรับระบบช่วงล่างใหม่ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่ พร้อมออกแบบจุดยึดตัวถังให้ใหญ่ขึ้นช่วยลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นถนนเข้าสู่ห้องโดยสารให้ความนุ่มนวลในการขับขี่อีกทั้งยังช่วยให้การควบคุมรถทำได้ดีขึ้น ประกอบกับการเพิ่มอุปกรณ์ซับเสียงตามจุดต่างๆ ภายในห้องโดยสาร และเพิ่มฉนวนเก็บเสียง วัสดุดูดซับเสียงและลดการสั่นสะเทือนในส่วนต่างๆ ที่สำคัญของเครื่องยนต์ ทำให้ได้มาซึ่งห้องโดยสารที่เงียบที่ขึ้น ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแบบปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยส์ปริงและเหล็กกันโคลง และระบบกันสะเทือนหลังแบบทรีลิงค์ ทอล์คอาร์ม พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลงและเหล็กกันสะบัดเพลาหลัง โดยการปรับตั้งค่าสปริงและโช้คอัพใหม่ทั้งหน้าและหลังช่วยเพิ่มการทรงตัวเมื่อเข้าโค้งและเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ | ||||||||||||
สำหรับเครื่องยนต์แบบอลูมินัม อัลลอย บล็อก (Aluminum Alloy Block) ที่น้ำหนักเบา เมื่อประสานการทำงานของระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ 8 สปีด จึงประหยัดน้ำมันขึ้นถึง 17% เมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา และปล่อยค่ามลพิษที่ต่ำกว่า 200 กรัม / กิโลเมตร ภายใต้โครงสร้างภาษีใหม่ที่จะประกาศใช้ในเดือนมกราคม 2559 นี้ นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยควบคุมและตัดกำลังไปยังเพลาขับโดยอัตโนมัติเมื่อเหยียบเบรก (Idle neutral control) เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์และลดการสูญเสียเชื้อเพลิงในขณะรถหยุดนิ่งเมื่อเกียร์อยู่ในตำแหน่ง “D” ท่ามกลางสภาพการจราจรที่แออัดส่งผลให้ประหยัดน้ำมันในทุกการขับขี่และลดการสึกหรอของระบบเกียร์ช่วยยืดอายุการใช้งานของเกียร์ให้ยาวนานขึ้น พร้อมด้วยระบบ G-SENSOR ช่วยควบคุมการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้มีความแม่นยำมากขึ้นในทางลาดชัน ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมระบบ Super Select 4WD–II ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-time All Wheel Control และสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนเป็น 4HLc หรือ 4LLc เมื่อต้องการขับขี่บนเส้นทางแบบออฟโรดได้ตามความต้องการและง่ายขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า โหมดขับเคลื่อนแบบออฟโรด ในรุ่น GT-Premium ที่สามารถเลือกการขับขี่เพื่อรองรับสภาพเส้นทางออฟโรดได้ถึง 4 รูปแบบ (ครั้งแรกในมิตซูบิชิ) โดยจะสัมพันธ์กับการทำงานของเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน และเบรกทำให้สามารถขับเคลื่อนผ่านสภาพเส้นทางต่างๆ ไปได้ • GRAVEL เหมาะสำหรับขับขี่บนถนนลูกรังที่มีกรวดและดิน • MUD/SNOW เหมาะสำหรับขับขี่ในบริเวณที่เป็นโคลนหรือหิมะหนา • SAND เหมาะสำหรับขับขี่ในบริเวณที่เป็นทรายละเอียด • ROCK เหมาะสำหรับขับขี่บนถนนที่พื้นผิวขรุขระเช่นมีหินมากหรือล้อลอยจากพื้น | ||||||||||||
- ระบบเบรก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ระบบช่วยเสริมแรงเบรก (BA) รวมไปถึงระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก (Brake Override System) ทำให้เบรกได้ง่ายและปลอดภัยขึ้น - ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS : Emergency Stop Signal System) จะทำงานเมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกอย่างกะทันหัน หรือเมื่อระบบ ABS ทำงาน โดยไฟฉุกเฉินจะกะพริบต่อเนื่องจนกว่าจะปล่อยเบรกหรือรถหยุดสนิทเพื่อแจ้งให้รถคันหลังทราบ - ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA : Hill Start Assist) ป้องกันการลื่นไหลในกรณีที่ต้องเบรกรถบนทางชันและต้องออกตัวอีกครั้ง - ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC : Hill Descent Control) ช่วยรักษาระดับความเร็วของรถด้วยการควบคุมการเบรกให้สอดคล้องกับสภาพการขับขี่เมื่อต้องขับขี่ผ่านเส้นทางแบบออฟโรด และลงทางลาดชัน หรือทางลาดลื่น โดยระบบจะทำงานเมื่ออยู่ในช่วงความเร็ว 2-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (เฉพาะรุ่น GT- Premium) - เบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้าติดตั้งบริเวณคอนโซลกลางสะดวกและง่ายต่อการใช้งาน - ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว พร้อมระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ( ASTC : Active Stability & Traction Control) - ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM-Forward Collision Mitigation System) จะทำงานโดยใช้เรด้าประเมินระยะห่างจากรถคันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถคันหน้าในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนเพื่อให้เบรกรถ พร้อมเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก เพื่อให้ประสิทธิภาพในการเบรกที่ดียิ่งขึ้น และเมื่อความเร็วต่ำกว่า 30 กม./ชม. ระบบช่วยเบรกจะทำงานอัตโนมัติ เมื่อพบว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะชนรถคันหน้าในช่องทางเดียวกัน เพื่อบรรเทาความเสียหายจากการชน (เฉพาะรุ่น GT และ GT-Premium ) - กล้องมองภาพรอบคันพร้อมเส้นแสดงทิศทางการเคลื่อนที่ของรถ (Multi-around Monitor) ทำงานผ่านกล้อง 4 ตำแหน่งรอบตัวรถ เพื่อประมวลผลและแสดงภาพแบบ Bird’s Eye View ผ่านหน้าจอมอนิเตอร์ ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นภาพได้รอบตัวรถ เพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการจอดรถได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น - ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (UMS-Ultrasonic misacceleration Mitigation System) ทำงานโดยใช้คลื่นอัลตร้าโซนิคตรวจจับวัตถุด้านหน้าหรือด้านหลังในระยะไม่เกิน 4 เมตร ในขณะที่เกียร์อยู่ตำแหน่ง "D" หรือ "R" หากมีการเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ระบบจะทำการตัดกำลังเครื่องยนต์ไว้ประมาณ 5 วินาที ทั้งนี้ระบบจะทำงานที่ความเร็วต่ำกว่า 10 กม./ชม. เพื่อบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดจากการชน - ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (BSW - Blind Spot Warning) ทำงานโดยการใช้คลื่นอัลตร้าโซนิค ซึ่งติดตั้งอยู่บริเวณมุมกันชนทั้ง 4 ด้าน โดยระบบจะส่งสัญญาณไฟเตือนบนกระจกมองข้างให้ผู้ขับขี่ทราบว่ามีรถอยู่ในจุดอับสายตาซึ่งไม่สามารถมองเห็นจากกระจกมองข้าง ในขณะเดียวกันเมื่อเปิดสัญญาณไฟเลี้ยว ระบบจะส่งสัญญาณเสียงเตือนพร้อมสัญญาณเตือนไฟกระพริบบนกระจกมองข้าง ทั้งนี้ระบบจะทำงานที่ความเร็ว 20 - 140 กม./ชม. ในระยะไม่เกิน 3 เมตร เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการเปลี่ยนช่องจราจร (เฉพาะรุ่น GT-Premium ) - ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS สำหรับทุกรุ่น โดยในรุ่น GT-Premium มาพร้อมถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ได้แก่ถุงลมนิรภัยคู่หน้าแบบ SRS โดยทำงานร่วมกันกับระบบเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทางพร้อมระบบผ่อนแรงโนมัติ ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ถุงลมนิรภัยหัวเข่าด้านคนขับและม่านถุงลมนิรภัย สำหรับ“มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่” พร้อมให้ยลโฉมที่“มหกรรมยานยนต์เพื่อขายแห่งชาติ : Bangkok International Grand Motor Sale 2015 (BIG Motor Sale)” ระหว่างวันที่ 1-9 สิงหาคมนี้ ที่ไบเทค บางนา และที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ 220 แห่งทั่วประเทศ พร้อมส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ | ||||||||||||
| ||||||||||||
หน่วย : บาท *เป็นราคาพิเศษเฉพาะช่วงเปิดตัวสำหรับรุ่น GT-Premium (4WD) โดยลูกค้าที่จองรถและรับรถจะต้องเป็นบุคคลคนเดียวกัน หรือ ญาติ เท่านั้น (ญาติ หมายถึง ญาติของผู้จอง ซึ่งกำหนดไว้ดังนี้ 1.คู่สมรสของผู้จอง 2.บุตรของผู้จอง 3.บิดามารดาของผู้จอง หรือบิดามารดาของคู่สมรสของผู้จอง 4.พี่ชาย, น้องชาย, พี่สาว, น้องสาวของผู้จอง หรือ ของคู่สมรสของผู้จอง ทั้งนี้ บุคคลดังกล่าวต้องมีความสัมพันธ์ที่ชอบด้วยกฎหมายกับผู้จอง) | ||||||||||||
Pajero1.jpg (66.5 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 768)
ยินดีต้อนรับสู่ OffroadThai.com ชุมชนคนขับรถยนต์ Offroad 4WD ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย (http://offroadthai.com/) | Powered by Discuz! X3 |